พุทธจริยา
คือ การปฏิบัติตนหรือการบำเพ็ญประโยชน์ของพระพุทธเจ้า พุทธจริยาประกอบด้วยพระจริยวัตรขอพระพุทธเจ้า 3 ประการ ดังนี้
1. โลกัตถจริยา การบำเพ็ญประโยชน์ต่อชาวโลก
2. ญาตัตถจริยา การบำเพ็ญประโยชน์แก่พระประยูรญาติ
3. พุทธัตถจริยา การบำเพ็ญประโยชน์แก่พระองค์เองและผู้อื่นตามหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะทรงเป็นพระพุทธเจ้า
1. โลกัตถจริยา
คือ การบำเพ็ญประโยชน์ของพระพุทธเจ้าต่อชาวโลก ภายหลังการตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว มีดังนี้
2.1 เวลาเช้ามืดก่อนสว่าง ทรงพิจารณาถึงบุคคลหรือสถานที่ที่จะเดินทางไปโปรด
2.2 เวลาเ้ช้า เสด็จออกบิณฑบาตร
2.3 เวลาเย็น แสดงธรรมโปรดประชาชน
2.4 เวลาค่ำ ประทานโอวาทแก่พระภิกษุ
2.5 เวลาเที่ยงคืน สนทนาธรรมกับเทวดา (กษัตริย์หรือบุคคลชั้นสูง)
2. ญาตัตถจริยา
คือ การบำเพ็ญประโยชน์ของพระพุทธเจ้าต่อพระประยูรญาติ ซึ่งประกอบด้วย พระญาติวงศ์ 2 ฝ่าย ตั้งบ้านเมืองอยู่สองฝั่งแม่น้ำโรหิณี ได้แก่ ฝ่ายพระะมารดาที่เมืองเทวทหะ แคว้นโกลิยะ และฝ่ายพระบิดาที่เมืองกบิลพัสดุ์ แคว้นสักกะ สรุปพุทธจริยาในข้อนี้ได้ดังนี้
2.1 โปรดพระบิดา(พระเจ้าสุทโธทนะ) และพระประยูรญาติที่เมืองกบิลพัสดุ์ ภายหลังตรัสรู้ได้ 2 ปี ได้เสด็จไปแสดงธรรมเผยแผ่พระศาสนา ณ เมืองกบิลพัสดุ์ เป็นผลให้พระบิดาและพระญาติวงศ์เกิดความศรัทธาเข้ารับนับถือในพระพุทธศาสนาจำนวนมาก
2.2 โปรดพระนางพิมพาและพระราหุล ผลจากการเสด็จไปแสดงธรรมเทศนาโปรดพระประยูรญาติในครั้งนี้ พระนางพิมพา(พระมารดาของพระโอรสราหุล) ได้ขออุปสมบทเป็นภิกษุณี ต่อมาได้ื่อใหม่ว่า "ภัททากัจจานา" และพระราหุล พระโอรสได้ขอบวชเป็นสามเณรองค์แรกในพระพุทธศาสนา
2.3 ทรงระงับกรณีพิพาทระหว่างพระญาติ โดยมีสาเหตุจากราษฎรชาวเมืองกบิลพัสดุ์กับชาวเมืองโกลิยะขัดแย้งกันเรื่องการทดน้ำเข้านาในช่วงฝนแล้ง ซึ่งระดับน้ำในแม่น้ำโรหิณีมีปริมาณลดต่ำลง ทำให้กองทัพทั้งสองฝ่ายเตรียมทำสงครามแย่งน้ำกัน พระพุทธเจ้าจึงเสด็จไปห้าม
3. พุทธัตถจริยา
คือ การบำเพ็ญประโยชน์ของพระพุทธเจ้าตามหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะที่ทรางเป็นพระบรมศาสดา มีดังนี้
3.1 ทรงแสดงธรรมโปรดเวไนยสัตว์ สัตว์โลกที่พึงสั่งสอนอบรมขัดเกลาได้
3.2 ทรงบัญญัติพระวินัยแก่พุทธบริษัท ได้แก่ ศีล 5 (ชาวพุทธทั่วไป) , ศีล 8 (อุบาสกและอุบาสิกา) , ศีล 10 (สามเณร) , ศีล 227 (ภิกษุ) , ศีล 311 (ภิกษุณี)
3.3 ทรงมอบความเป็นไทยให้แก่คณะสงฆ์ เช่นมอบอำนาจให้คณะสงฆ์ในชนบทบริหารและปกครองกันเอง และทำพิธีบวชให้แก่ผู้ศรัทธาเลื่อมใส โดยไม่ต้องยึดติดกับพระพุทธองค์
3.4 ทรงประกาศให้พระธรรมวินัยเป็นศาสดาแทนพระองค์ ก่อนเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ทรงให้โอวาทแก่พระสงฆ์และพุทธบริษัทให้ยึดพระธรรมวินัยเป็นที่พึ่ง หรือเป็นศาสดาแทนพระองค์
อริยสัจ 4
คือ ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ เป็นหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ และใ้ช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาชีวิตของชาวพุทะ มีดังนี้
1. ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ ความโศกเศร้าเสียใจ (สภาวะที่ต้องกำหนดรู้)
2. สมุทัย คือ สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ส่วนใหญ่เกิดจากตัณหา (สภาวะที่ต้องละเว้น)
3. นิโรธ คือ ความดับทุกข์ สภาวะที่ทุกข์หมดสิ้น (สภาวะที่ต้องบรรลุ)
4. มรรค คือ ข้อปฏิบัติที่ทำให้ทุกข์ดับ เรียกว่า มรรคมีองค์ 8 (สภาวะที่ต้องเจริญหรือทำให้มี)
**********************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น